คำนำ
ประวัติสุนทรภู่ที่พบใหม่นี้ ได้อาศัยหนังสือเรื่อง "ชีวิตและผลงานของสุนทรภู่" ของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ที่ทรงพระนิพนธ์ไว้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ เป็นหลัก โดยเอางานหนังสือของสุนทรภู่ทุกเรื่องมาศึกษา วิเคราะห์ วิจัย วิจารณ์ใหม่ ได้พบเงื่อนงำที่น่าสนใจหลายประการ คือ
๑. สุนทรภู่ มิได้เคยเป็น ขุนสุนทรโวหาร เพราะตำแหน่งนี้ไม่มีในทำเนียบตำแหน่งข้าราชการวังหลังและวังหน้า มีแต่ "หลวงสุนทรโวหาร" เจ้ากรมราชบัณฑิตย์ จึงเห็นว่า สุนทรภู่ไม่ได้เป็นขุน แต่เป็นหลวงสุนทรโวหาร
๒. ไม่ปรากฎหลักฐานจากทีใดๆ เลยว่ า สุนทรภู่ถูกถอดยศ ถูกปลดตำแหน่ง เรื่องที่ควรเป็นคือ สุนทภู่เกรงพระบารมี เกรงราชภัยจากพระนั่งเกล้าฯ ที่ตนเคยข้ามกรายไว้ จึงหนีออกบวชในนาม ของ หลวงสุนทรภู่นอกราชการ ท่านจึงออกนามของท่านว่า "สุนทร" อยู่เสมอมาในขณะที่บวชอยู่
๓. เพลงยาวสุนทรสุภาษิตสอนหญิง ทีว่าเป็นสำนวนกลอนสุนทรภู่น้ัน ได้พบหลักฐานแน่ชัดว่า เป็นของนายภู่ จุลละภมร ลูกศิษย์สุนทรภู่ นายภู่ จุลละภมร แต่งกลอนมีคำไหว้ครูสำนวนเดียวกันนี้ทุกเรื่อง
๔. นิราศวัดเจ้าฟ้า น้ัน เป็นสำนวนกลอนของนายพัด ภู่เรือหงส์ ลูกชายสุนทรภู่ แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๙ นายพัด อายุุได้ ๑๙ ปี พรรณาถึงเจ้าจอมทองอยู่ พระอัครชายาของกรมพระอนุรักษ์เทเวศร์
๕. นิราศพระแท่นดงรัง ฉบับที่ขึ้นต้นว่า "นิราศรักหักใจอาลัยหวน" น้ัน มีหลักฐานแน่ชัดว่า เป็นของเสมียนมี หมื่นพรหมสมพัตศร (มี มีระเสน) โดยแน่นอนไม่มีที่สงสัยเลย แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๙
๖. นิราศอิเหนา นั้น เป็นสำนวนกลอนของกรมหลวงภูวเนตรนริทร์ฤทธิ์ ลูกศิษย์สุนทรภู่ ใช้ถ้อยคำประณีต สูงส่งกว่ากลอนตลาดของสุนทรภู่ เจ้าชายขัตติยกวีพระองค์นี้ทรงนิพนธ์กลอนไพเราะยิ่งกว่าสุนทรภู่
๗. นิราศพระแท่นดงรัง ฉบับที่ขึ้นต้นว่า "เณรหนูกลั่นวันทามหาเถร" นั้น เป็นสำนวนกลอนของนายกลั่น พลกนิษฐ์ หลานชายเจ้าพระยาพลเทพ (ฉิม พลกนิษฐ์) แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๘ สุนทรภู่เดินทางไปนมัสการพระแท่นดงรังด้วย ยังบวชอยู่ ยังไม่ได้สึก นายกลั่น พลกนิษฐ์ ยืนยันไว้มั่นคงในเรื่องนี้ว่า สุนทรภู่บวชมา ๒๑ ปี จนเป็นมหาเถร พระที่จะเรียกว่า มหาเถรได้ ต้องบวช ๒๐ ปีขึ้นไป
๘. พระอภัยมณี นั้น สุนทรภู่แต่งถวายเจ้าฟ้ามงกุฎและเจ้าฟาจุฑามณี ที่พลาดจากราชสมบัติ สุนทรภู่แต่งเป็นปริศนาธรรมสอนเจ้าฟ้าสองพระองค์นี้ แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๗
๙. เพลงยาวรำพรรณพิลาป นั้น สุนทรภู่แต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เป็นเพลงยาวสังวาส แต่งเกี้ยวเจ้านายสาวผู้ทรงโฉมโสภาพระองค์น้ัน ตามอารมณ์เพ้อฝันของกวีเอก แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๓๘๕
๑๐. นิราศเมืองเพชร แต่งถวายเจ้าฟ้า กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ เมื่ออาสาเดินทางไปหาของดีถวายเจ้านายพระองค์นัน แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๐ ลงเรือที่ท่าหน้าวัดพระเชตุพน ฯ
๑๑. นิราศสุพรรณบุรี แต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ที่มหากวีเอกคนนี้เพ้อฝันถึงอยู่ในอารมณ์ และยึดเอามาเป็นมิ่งขวัญสิ่งดลบันดาลใจทางกวีนิพนธ์ แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๔
๑๒. นิราศพระปธม แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๕ แต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เพื่อขอขมาที่แต่งเพลงยาวรำพรรณพิลาปไปถวายเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๓๘๕ สุนทรภู่แต่งนิราศเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย
๑๓.สุนทรภู่ แต่งสุภาษิตไว้เรื่องหนึ่ง คือ สุภาษิตโลกนิติคำกลอน แต่งเมื่อบวชอยู่วัดสระเกศ ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๖ ถึง พ.ศ. ๒๓๙๓ ซึ่งยังไม่เคยมีใครศึกษาค้นคว้าพบมาก่อน
๑๔. สุนทรภู่ สึกออกมารับราชการอยู่ในวังหน้า พึ่งใบบุญอยู่กับสมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ซึงได้รับสถาปนาเป็น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้ต้ังให้สุนทรภู่เป็น พระสุนทรโวหาร (เลื่อนจาก หลวงสุนทรโวหาร นอกราชการ ) มีศักดินา ๒๕๐๐ ไร่ ตำแหน่งจางวางกรมพระอาลักษณ์ (ไม่ใช่เจ้ากรมอาลักษณ์)
๑๕. สุนทรภู่ออกจากราชการเมื่อ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตเมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๐๘ แล้วออกไปอยู่บ้านสวนฝั่งธนบุรี จนถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๐ อายุ ๘๑ ปี คนทีดวงชะตา อายุกุมลัคนาอย่างสุนทรภู่นั้น อายุเกิน ๘๐ ปีแน่นอน
ประวัติสุนทรภู่ที่พบใหม่นี้ อาจจะเก่าสำหรับบางท่านที่ทราบอยู่แล้ว แต่อาจจะทำให้บางท่านไม่เชื่อถือก็ได้ มันสุดแล้วแต่การศึกษาค้นคว้าตื้นลึกแคบกว้างใกล้ไกลของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางท่านก็อาจจะยึดถืออยู่ในทฤษฎีเดิมที่สมเด็จกรมฯ พระยาดำรงราชานุภาพ นักปราชญ์องค์น้ันได้ทรงวินิจฉัยไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๕ แต่บัดนี้เวลาล่วงเลยมานานถึง ๖๕ ปีแล้ว ย่อมจะมี่ผู้พบหลักฐานใหม่ๆ ขึ้นได้เสมอ ทฤษฎีในทางวิทยาศาสตร์ยังมีผู้ค้นพบทฤษฎีใหม่ลบล้างทฤษฎีเก่ามาตลอดเวลา ทฤษฎีในทางการวรรณคดีจึงอาจจะมีผู้ค้นพบทฤษฎีใหม่ลบล้างทฤษฎีเก่าได้ ไม่ใช่เรื่องศฺิษย์คิดล้างครูอะไรเลย ถ้าแม้นสมเด็จพระองค์น้ันยังทรงมีพระชนม์อยู่ ท่านก็อาจจะยอมรับด้วยวิจารณญาณของนักปราชญ์ผู้รักสัจธรรม
เพราะฉนั้น ข้าพเจ้าจึงเสนอทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับสุนทรภู่ให้ท่านผู้สนใจ พิจารณากันใหม่ การศึกษาวิชาวรรณคดีในปัจจุบันนี้จำต้องมีการศึกษาแบบวิทยาศาสตร์ มีการวิจัย พิสูจน์ ตามหลักวิชา มิใช่ว่าอะไรตามกันไปเหมือนแต่ก่อน การศึกษาจึงจะมีรสชาติ ไม่น่าเบื่อหน่าย ข้าพจ้าหวังว่าเรื่องนี้คงจะเป็นที่สนใจของท่านผู้ที่รักบทกวีของสุนทรภู่โดยทั่วกัน เรืองผิดถูกไม่สำคัญ มันสำคัญอยู่ที่ว่าสุนทรภู่เป็นมหากวีของโลกแล้ว เราจึงต้องพูดถึงสุนทรภู่กันด้วยจิตใจทีเคารพท่านมหากวีผู้ล่วงลับไปแล้ว ไม่บังควรที่จะพูดถึงท่านในทางเสื่อมเสียเกียรติยศ เพราะท่านไม่สามารถจะลุกขึ้นมาแก้ตัวอะไรได้แล้ว แม้บทกวีที่มิใช่ของท่านก็ไม่บังควรที่จะไปโมเมจับยัดปากท่าน เพราะจะทำให้บทกวีของท่านเสื่อมเศร้าหมองลงไป ตัวอย่างเช่น เพลงยาวสุภาษิตสอนหญิงนั้น ฝีปากไมถึงขั้นมหากวีผู้นี้เลย ก็ไม่บังควรจะดึงดันกันต่อไป เมื่อมีหลักฐานตัวกวีผู้แต่งที่ชื่อ นายภู่ จุลละภมร แต่งบทกวีใช้คำไหว้ครูสำนวนเดียวกันนี้ทุกเรื่อง และสุนทรภู่แต่งบทกวีก็ไม่เคยไหว้ครูเลยแม้แต่เรืองเดียว หรือแม้แต่กลอนที่ไพเราะเพราะพริ้งเกินกลอนสุนทรภู่ อย่างนิราศอิเหนา ของกรมหลวงภูวเนตรนรินทร์ฤทธิ์ ก็ต้องถวายพระเกียรติยศให้ท่านเจ้าชายนักกวี โอรสพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ขัตติยกวีพระองค์นั้น ไม่ควรจะเหนี่ยวลงมาเป็นกลอนสุนทรภู่ต่อไป
ข้าพเจ้าขอเรียนว่า คนที่จะรู้ฝีมือของนักดนตรี จะต้องเป็นนักดนดรีด้วยกัน คนที่จะรู้ฝืมือของนักกวีจะต้องเป็นนักกวีด้วยกัน คนที่ไม่ใช่นักกวีน้ัน คงจะแยกแยะไม่ออกว่า คำกวีอย่างไหน เป็นฝีมือนักกวีระดับใด คนที่จะวิจารณ์กวีสุนทรภู่ได้ดี ควรเป็นกวีทีเข้าถึงอารมณ์กวี มีความชำนาญในอรรถรสของกวีพอสมควร
เทพ สุนทรศารทูล
๑ มิถุนายน ๒๕๓๐
ป.ล. ข้าพเจ้าใช้เวลาเขียนเรื่องนี้อยู่ ๖ เดือน แต่ใช้เวลาศึกษาค้นคว้ามาตั้งแต่พ.ศ.๒๔๙๕ จนถึง พ.ศ. ๒๕๓๐ เป็นเวลานานถึง ๓๕ ปีเต็ม ก็มีผลการศึกษาค้นคว้าออกมาอย่างนี้
๘. พระอภัยมณี นั้น สุนทรภู่แต่งถวายเจ้าฟ้ามงกุฎและเจ้าฟาจุฑามณี ที่พลาดจากราชสมบัติ สุนทรภู่แต่งเป็นปริศนาธรรมสอนเจ้าฟ้าสองพระองค์นี้ แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๗
๙. เพลงยาวรำพรรณพิลาป นั้น สุนทรภู่แต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เป็นเพลงยาวสังวาส แต่งเกี้ยวเจ้านายสาวผู้ทรงโฉมโสภาพระองค์น้ัน ตามอารมณ์เพ้อฝันของกวีเอก แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๓๘๕
๑๐. นิราศเมืองเพชร แต่งถวายเจ้าฟ้า กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ เมื่ออาสาเดินทางไปหาของดีถวายเจ้านายพระองค์นัน แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๐ ลงเรือที่ท่าหน้าวัดพระเชตุพน ฯ
๑๑. นิราศสุพรรณบุรี แต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ ที่มหากวีเอกคนนี้เพ้อฝันถึงอยู่ในอารมณ์ และยึดเอามาเป็นมิ่งขวัญสิ่งดลบันดาลใจทางกวีนิพนธ์ แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๔
๑๒. นิราศพระปธม แต่งเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๕ แต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เพื่อขอขมาที่แต่งเพลงยาวรำพรรณพิลาปไปถวายเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. ๒๓๘๕ สุนทรภู่แต่งนิราศเรื่องนี้เป็นเรื่องสุดท้าย
๑๓.สุนทรภู่ แต่งสุภาษิตไว้เรื่องหนึ่ง คือ สุภาษิตโลกนิติคำกลอน แต่งเมื่อบวชอยู่วัดสระเกศ ระหว่าง พ.ศ. ๒๓๘๖ ถึง พ.ศ. ๒๓๙๓ ซึ่งยังไม่เคยมีใครศึกษาค้นคว้าพบมาก่อน
๑๔. สุนทรภู่ สึกออกมารับราชการอยู่ในวังหน้า พึ่งใบบุญอยู่กับสมเด็จเจ้าฟ้าชายจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ซึงได้รับสถาปนาเป็น พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และได้ต้ังให้สุนทรภู่เป็น พระสุนทรโวหาร (เลื่อนจาก หลวงสุนทรโวหาร นอกราชการ ) มีศักดินา ๒๕๐๐ ไร่ ตำแหน่งจางวางกรมพระอาลักษณ์ (ไม่ใช่เจ้ากรมอาลักษณ์)
๑๕. สุนทรภู่ออกจากราชการเมื่อ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคตเมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๐๘ แล้วออกไปอยู่บ้านสวนฝั่งธนบุรี จนถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๐ อายุ ๘๑ ปี คนทีดวงชะตา อายุกุมลัคนาอย่างสุนทรภู่นั้น อายุเกิน ๘๐ ปีแน่นอน
ประวัติสุนทรภู่ที่พบใหม่นี้ อาจจะเก่าสำหรับบางท่านที่ทราบอยู่แล้ว แต่อาจจะทำให้บางท่านไม่เชื่อถือก็ได้ มันสุดแล้วแต่การศึกษาค้นคว้าตื้นลึกแคบกว้างใกล้ไกลของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางท่านก็อาจจะยึดถืออยู่ในทฤษฎีเดิมที่สมเด็จกรมฯ พระยาดำรงราชานุภาพ นักปราชญ์องค์น้ันได้ทรงวินิจฉัยไว้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๕ แต่บัดนี้เวลาล่วงเลยมานานถึง ๖๕ ปีแล้ว ย่อมจะมี่ผู้พบหลักฐานใหม่ๆ ขึ้นได้เสมอ ทฤษฎีในทางวิทยาศาสตร์ยังมีผู้ค้นพบทฤษฎีใหม่ลบล้างทฤษฎีเก่ามาตลอดเวลา ทฤษฎีในทางการวรรณคดีจึงอาจจะมีผู้ค้นพบทฤษฎีใหม่ลบล้างทฤษฎีเก่าได้ ไม่ใช่เรื่องศฺิษย์คิดล้างครูอะไรเลย ถ้าแม้นสมเด็จพระองค์น้ันยังทรงมีพระชนม์อยู่ ท่านก็อาจจะยอมรับด้วยวิจารณญาณของนักปราชญ์ผู้รักสัจธรรม
เพราะฉนั้น ข้าพเจ้าจึงเสนอทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับสุนทรภู่ให้ท่านผู้สนใจ พิจารณากันใหม่ การศึกษาวิชาวรรณคดีในปัจจุบันนี้จำต้องมีการศึกษาแบบวิทยาศาสตร์ มีการวิจัย พิสูจน์ ตามหลักวิชา มิใช่ว่าอะไรตามกันไปเหมือนแต่ก่อน การศึกษาจึงจะมีรสชาติ ไม่น่าเบื่อหน่าย ข้าพจ้าหวังว่าเรื่องนี้คงจะเป็นที่สนใจของท่านผู้ที่รักบทกวีของสุนทรภู่โดยทั่วกัน เรืองผิดถูกไม่สำคัญ มันสำคัญอยู่ที่ว่าสุนทรภู่เป็นมหากวีของโลกแล้ว เราจึงต้องพูดถึงสุนทรภู่กันด้วยจิตใจทีเคารพท่านมหากวีผู้ล่วงลับไปแล้ว ไม่บังควรที่จะพูดถึงท่านในทางเสื่อมเสียเกียรติยศ เพราะท่านไม่สามารถจะลุกขึ้นมาแก้ตัวอะไรได้แล้ว แม้บทกวีที่มิใช่ของท่านก็ไม่บังควรที่จะไปโมเมจับยัดปากท่าน เพราะจะทำให้บทกวีของท่านเสื่อมเศร้าหมองลงไป ตัวอย่างเช่น เพลงยาวสุภาษิตสอนหญิงนั้น ฝีปากไมถึงขั้นมหากวีผู้นี้เลย ก็ไม่บังควรจะดึงดันกันต่อไป เมื่อมีหลักฐานตัวกวีผู้แต่งที่ชื่อ นายภู่ จุลละภมร แต่งบทกวีใช้คำไหว้ครูสำนวนเดียวกันนี้ทุกเรื่อง และสุนทรภู่แต่งบทกวีก็ไม่เคยไหว้ครูเลยแม้แต่เรืองเดียว หรือแม้แต่กลอนที่ไพเราะเพราะพริ้งเกินกลอนสุนทรภู่ อย่างนิราศอิเหนา ของกรมหลวงภูวเนตรนรินทร์ฤทธิ์ ก็ต้องถวายพระเกียรติยศให้ท่านเจ้าชายนักกวี โอรสพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ขัตติยกวีพระองค์นั้น ไม่ควรจะเหนี่ยวลงมาเป็นกลอนสุนทรภู่ต่อไป
ข้าพเจ้าขอเรียนว่า คนที่จะรู้ฝีมือของนักดนตรี จะต้องเป็นนักดนดรีด้วยกัน คนที่จะรู้ฝืมือของนักกวีจะต้องเป็นนักกวีด้วยกัน คนที่ไม่ใช่นักกวีน้ัน คงจะแยกแยะไม่ออกว่า คำกวีอย่างไหน เป็นฝีมือนักกวีระดับใด คนที่จะวิจารณ์กวีสุนทรภู่ได้ดี ควรเป็นกวีทีเข้าถึงอารมณ์กวี มีความชำนาญในอรรถรสของกวีพอสมควร
เทพ สุนทรศารทูล
๑ มิถุนายน ๒๕๓๐
ป.ล. ข้าพเจ้าใช้เวลาเขียนเรื่องนี้อยู่ ๖ เดือน แต่ใช้เวลาศึกษาค้นคว้ามาตั้งแต่พ.ศ.๒๔๙๕ จนถึง พ.ศ. ๒๕๓๐ เป็นเวลานานถึง ๓๕ ปีเต็ม ก็มีผลการศึกษาค้นคว้าออกมาอย่างนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น