๗. งานกวีนิพนธ์
ประวัติของท่านสุนทรโวหาร(ภู่ ภู่เรือหงส์) ที่สำคัญที่สุดคืองานกวีนิพนธ์ของท่าน เพราะท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมานาน ๒๐๐ ปี เพราะฉนั้นการเขียนชีวประวัติของพระสุนทรโวหาร(ภู่ ภู่เรือหงส์) เราควรจะรู้โดยแน่ชัดว่า งานกวีนิพนธ์ของท่านมีอะไรบ้าง ไม่ใช่ว่าตามคำเขาว่า หรือปล่อยให้ใครๆ ขุดค้นเอางานกวีนิพนธ์ของกวีอื่นมายัดเยียดว่านี่คืองานกวีนิพนธ์ของท่านจนเปรอะไปหมด ข้าพเจ้าเคยเห็นบทกวีสุนทรภู่ที่สำนักพิมพ์บางแห่ง พิมพ์นิราศสุนทรภู่ไว้ถึง ๑๖ เรื่อง เอานิราศของใครต่อใครมาใส่ไว้เต็มไปหมด เช่น คำกลอนที่ว่า "มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์ เมื่อมีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน" อ้างกันนักหนาว่าเป็นสุภาษิตสุนทรภู่ เพราะบอกไว้ว่าผู้แต่งชื่อ ภู่ ไม่รู้กันว่า คือ นายภู่ ธรรมทานาจารย์ นี่คือเรื่องที่ว่าตามกันมามากกว่า ๑๐๐ ปีแล้ว
เพราะฉนั้นการเขียนชีวประวัติสุนทรภู่กวีเอกของโลกที่ชาวต่างชาติก็รู้จักกันน้้น เราควรจะวิเคราะห์ วิจัยกันเสียให้แน่นอน อย่างมีหลักฐานว่างานกวีนิพนธ์ของสุนทรภู่ที่แท้จริงมีอะไรบ้าง เพราะฉนั้นข้าพเจ้าขอว่าตามที่ได้ค้นคว้าศึกษาเรื่องนี้มาอย่างจริงจังกว่า ๒๐ ปี ข้าพเจ้าปรารถนาที่จะเห็นวิชาวรรณคดีเป็นการศึกษาแบบใหม่อย่างวิทยาศาสตร์ มีการศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ วิจัย มีหลักฐานอ้างอิงไม่ใช่ว่าตามๆกันเหมือนสมัยโบราณ
สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ผู้ทรงพระนิพนธ์ชีวิตและงานของสุนทรภู่ แล้วพิมพ์ออกเผยแพร่ในงานฉลองพระชนมพรรษา ๕ รอบเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๕ ได้ทรงค้นคว้าพบว่ากวีนิพนธ์ของสุนทรภู่มีอยู่ ๒๔ เรื่อง คือ
นิราศ ๙ เรื่อง
๑. นิราศเมืองแกลง
๒. นิราศพระบาท
๓. นิราศเมืองเพชร
๔. นิราศภูเขาทอง
๕. นิราศสุพรรณ
๖. นิราศพระปธม
๗. นิราศอิเหนา
๘. นิราศพระแท่นดงรัง
๙.นิราศวัดเจ้าฟ้า
นิทาน ๕ เรื่อง
๑. เรื่องโคบุตร
๒. เรื่องพระอภัยมณี
๓. เรื่องกาพย์พระไชยสุริยา
๔. เรื่องพระลักษณวงศ์
๕. เรื่องสิงหไตรภพ
สุภาษิต ๓ เรื่อง
๑. สวัสดิรักษา
๒. เพลงยาวถวายโอวาท
๓. สุภาษิตสอนหญิง
บทละคร ๑ เรื่อง
๑. เรื่องพระอภัยนุราช
เพลงเสภา ๒ เรื่อง
๑. เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม
๒. เรื่องพระราชพงศาดาร
บทเห่กล่อม ๔ เรื่อง
๑. เห่เรื่องจับระบำ
๒. เห่เรื่องกากี
๓. เห่เรื่องพระอภัยมณี
๔ เห่เรื่องโคบุตร
นี่คือเรื่องที่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงศึกษาค้นคว้าไว้เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๕ ว่างานกวีนิพนธ์ของสุนทรภู่มี ๒๔ เรื่อง เราจึงต้องขอบพระเดชพระคุณพระองค์ท่านทีทรงวางรากฐานไว้ มิฉะนั้นเราจะจับต้นชนปลายไม่ติด แต่นั่นแหละเวลาผ่านมา ๖๕ ปีแล้ว ทฤษฎีที่ทรงวางไว้ก็ต้องมีผู้พิสูจน์
นิทาน ๕ เรื่อง
๑. เรื่องโคบุตร
๒. เรื่องพระอภัยมณี
๓. เรื่องกาพย์พระไชยสุริยา
๔. เรื่องพระลักษณวงศ์
๕. เรื่องสิงหไตรภพ
สุภาษิต ๓ เรื่อง
๑. สวัสดิรักษา
๒. เพลงยาวถวายโอวาท
๓. สุภาษิตสอนหญิง
บทละคร ๑ เรื่อง
๑. เรื่องพระอภัยนุราช
เพลงเสภา ๒ เรื่อง
๑. เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนกำเนิดพลายงาม
๒. เรื่องพระราชพงศาดาร
บทเห่กล่อม ๔ เรื่อง
๑. เห่เรื่องจับระบำ
๒. เห่เรื่องกากี
๓. เห่เรื่องพระอภัยมณี
๔ เห่เรื่องโคบุตร
นี่คือเรื่องที่สมเด็จกรมพระยาดำรงฯ ทรงศึกษาค้นคว้าไว้เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๕ ว่างานกวีนิพนธ์ของสุนทรภู่มี ๒๔ เรื่อง เราจึงต้องขอบพระเดชพระคุณพระองค์ท่านทีทรงวางรากฐานไว้ มิฉะนั้นเราจะจับต้นชนปลายไม่ติด แต่นั่นแหละเวลาผ่านมา ๖๕ ปีแล้ว ทฤษฎีที่ทรงวางไว้ก็ต้องมีผู้พิสูจน์
เพลงยาวรำพรรณพิลาป
ต่อมาพระยาราชสมบัติ(เอิบ บุรานนท์) ได้นำเอา"เพลงยาวรำพรรณพิลาป" มามอบให้หอสมุดอีกเรื่องหนึ่ง จึงได้เปิดเผยขึ้นมาว่ายังมีงานกวีนิพนธ์ของท่านสุนทรภู่ที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือเพลงยาวรำพรรณพิลาป ทำให้ทฤษฎี ๒๔ เรื่อง เปลี่ยนเป็น ๒๕ เรื่อง
นิราศพระแท่นดงรัง
ต่อมานายธนิต อยู่โพธิ์ อดีตอธิบดีกรมศิลปากรได้พิสูจน์ว่า "นิราศพระแท่นดงรัง" ฉบับที่ขึ้นต้นว่า "นิราศรักหักใจอาลัยหวน ไปพระแท่นดงรังตั้งแต่ครวญ" ที่บอกว่า "ปีวอกนักษัตรอัฎศก ชะตาตกต้องไปถึงไพรสณฑ์" นั้นไม่ใช่ของสุนทรภู่ แต่เป็นบทกวีของนายมี ศิษย์สุนทรภู่ ซึ่งบัดนี้เราก็ยอมรับกันทั่วไปแล้วว่า เป็นของนายมีจริง ปีวอกที่ว่าชะตาตกนั้น "อัฎศก" คือปีวอก จ.ศ. ๑๑๙๘ ตรงกับพ.ศ. ๒๓๗๙ ไม่ใช่ปีวอกที่สุนทรภู่ออกจากราชการ เมื่อปีวอกฉศก จ.ศ.๑๑๘๖ ตรงกับ พ.ศ.๒๓๖๗ ห่างกันถึง ๑๒ปีเต็ม เรื่องนี้ทำให้ทฤษฎี ๒๕ เรื่องเปลี่ยนเป็น ๒๔ เรื่อง เรื่องนี้คุณธนิต อยู่โพธิ์ได้เผยแพร่เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ หลังจากที่กรมพระยาดำรงฯ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ ๒๐ ปี
สุภาษิตสอนหญิง
ต่อมาเมื่อพ.ศ.๒๕๑๔ คุณสถิตย์ เสมานิล ได้ออกรายการว่า"สุภาษิตสอนหญิง" นั้น ไม่ใช่ของสุนทรภู่ แต่เป็นของกวีอีกคนหนึ่งที่ชื่อ ภู่ เป็นพ่อค้าเรือ นายภู่คนนี้ได้แต่งนิทานคำกลอนไว้อีกเรื่องหนึ่งคือ "นกกระจาบคำกลอน" มีคำไหว้ครูบอกชื่อไว้ว่านายภู่แต่ง
เรื่องนี้ข้าพเจ้าได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมค่อมาจึงพบว่า นายภู่ ผู้แต่งสุภาษิตสอนหญิงคนนี้เคยบวชเป็นพระอยู่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในสมัยรัชกาลที่ ๔ แล้วสึกออกมาเป็นพ่อค้าเรือ เมื่อบวชอยู่มีสมณศักดิ์ พระธรรมทานาจารย์(ภู่) ข้าพเจ้าจึงขอเรียกชื่อว่า นายภู่ ธรรมทานาจารย์ เป็นกวีชาวบ้านเคยบอกสักวาหน้าพระที่นั่งอยู่ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้แต่งบทกวีไว้หลายเรื่อง เท่าที่พบแล้วคือ
๑. พระสมุทรคำกลอน
๒. นครกายคำกลอน
๓. นกกระจาบคำกลอน
๔. สุภาษิตสอนหญิงคำกลอน
ทุกเรื่องมีคำไหว้ครู ขึ้นต้นกลอนคำไหว้ครูอย่างเดียวกันทุกเรื่อง คือ
"ประนมหัตถ์นมัสการขึ้นเหนือเศียร
ต่างประทีปโกสุมประทุมเทียน
จำนงค์เนียรน้อมบาทพระศาสดา"
(บางแห่งบางเรื่องก็ว่า "จำนงค์เนียรน้อมศีลพระชินวงศ์")
เป็นหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเป็นบทกวีของนายภู่จริง เพราะคำไหว้ครูเป็นสำนวนเดียวกันทุกเรื่อง ไม่ใช่ของท่านสุนทรภู่โดยเด็ดขาด เพราะท่านสุนทรภู่แต่งกลอนไม่เคยไหว้ครูเลยแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ว่าพระอภัยมณี โคบุตร ลักษณวงศ์ เพราะท่านถือตัวว่าท่านเป็นบรมครูทางบทกลอน
ก็เมื่อหลักฐามั่นคงอยู่อย่างนี้แล้ว เราจะต้องตัดสุภาษิตสอนหญิงออกไปอีกเรื่องหนึ่งว่าไม่ใช่ของสุนทรภู่ ทฤษฎีที่ว่ามี ๒๔ เรื่อง ก็ต้องเหลือ ๒๓ เรื่อง
๑. พระสมุทรคำกลอน
๒. นครกายคำกลอน
๓. นกกระจาบคำกลอน
๔. สุภาษิตสอนหญิงคำกลอน
ทุกเรื่องมีคำไหว้ครู ขึ้นต้นกลอนคำไหว้ครูอย่างเดียวกันทุกเรื่อง คือ
"ประนมหัตถ์นมัสการขึ้นเหนือเศียร
ต่างประทีปโกสุมประทุมเทียน
จำนงค์เนียรน้อมบาทพระศาสดา"
(บางแห่งบางเรื่องก็ว่า "จำนงค์เนียรน้อมศีลพระชินวงศ์")
เป็นหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าเป็นบทกวีของนายภู่จริง เพราะคำไหว้ครูเป็นสำนวนเดียวกันทุกเรื่อง ไม่ใช่ของท่านสุนทรภู่โดยเด็ดขาด เพราะท่านสุนทรภู่แต่งกลอนไม่เคยไหว้ครูเลยแม้แต่เรื่องเดียว ไม่ว่าพระอภัยมณี โคบุตร ลักษณวงศ์ เพราะท่านถือตัวว่าท่านเป็นบรมครูทางบทกลอน
ก็เมื่อหลักฐามั่นคงอยู่อย่างนี้แล้ว เราจะต้องตัดสุภาษิตสอนหญิงออกไปอีกเรื่องหนึ่งว่าไม่ใช่ของสุนทรภู่ ทฤษฎีที่ว่ามี ๒๔ เรื่อง ก็ต้องเหลือ ๒๓ เรื่อง
จันทโครบ
เรื่องจันทโครบคำกลอน เป็นนิทานคำกลอนที่แพร่หลายมากที่สุด ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงวินิจฉัยว่าเป็นไม่ใช่ของสุนทรภู่ แต่มิได้บอกว่าเป็นของกวีท่านใด บางครั้งจึงได้ยินว่ามีคนอ้างว่าจันทโครบเป็นบทกวีของสุนทรภู่
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๘ ข้าพเจ้าได้พบสมุดข่อย ลายมือเขียนเรื่องจันทโครบ มีคำไหว้ครูว่า
"ประนมหัตถ์นมัสการขึ้นเหนือเศียร
ต่างประทีปโกสุมประทุมเทียน
จำนงเนียรน้อมศีลพระชินวงศ์
ข้าพเจ้าผู้แต่งแมลงภู่
พึ่งริรู้เรื่องความตามประสงค์
แม้นบทกลอนอ่อนหัดไม่หยัดลง
ท่านภู่จงแจ้งช่วยอำนวยการ"
เมื่อเห็นคำไหว้ครูขึ้นต้นเหมือนสุภาษิตสอนหญิง และนครกายคำกลอนเช่นนี้แล้ว ก็หมดความสงสัยต่อไป เป็นคำกลอนของนายภู่ ธรรมทาจารย์แน่นอน นายภู่ ธรรมทานาจารย์ แต่งกลอนดีมีชื่อเสียงแพร่หลายอยู่อย่างน้อยก็ ๒ เรื่อง คือ สุภาษิตสอนหญิง นิทานคำกลอนเรื่องจันทโครบ
นิราศอิเหนา
ต่อมาข้าพเจ้าได้ศึกษาค้นคว้าพบว่า "นิราศอิเหนา" นั้น ไม่ใช่ของท่านสุนทรภู่ แต่เป็นของศิษย์สุนทรภู่อีกคนหนึ่ง ศิษย์ผู้นี้แต่งกลอนได้ไพเราะเท่าสุนทรภู่ แต่ใช้คำประณีตสูงส่งกว่าครู เพราะท่านเป็นเจ้าชาย เป็นพระราชโอรสของพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ท่านผู้นี้คือ กรมหลวงภูวเนตรนรินทร์ฤทธิ์ (พระองค์เจ้าชายทินกร) เป็นกวีที่มีผลงานกวีทิ้งไว้จนบัดนี้ คือ
๑. นิราศฉะเชิงเทราคำโคลง (ไพเราะเทียบเท่านิราศนรินทร์)
๒. เพลงยาวสังวาส ๔ สำนวน (ไพเราะลึกซึ้งมาก)
๓. บทละครนอกเรื่อง มณีพิไชยตอนต้น (ที่ว่าเป็นพระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ ๒)
๔. นิราศอิเหนา (ไพเราะที่สุดยิ่งกว่านิราศสุนทรภู่ทุกเรื่อง)
นิราศอิเหนานี้เรียกว่าเป็นนิราศที่ไพเราะที่สุด ไพเราะยิ่งกว่านิราศเมืองเพชรของสุนทรภู่ที่ว่าไพเราะที่สุด แต่นิราศอิเหนาไพเราะยิ่งกว่า ใช้คำประณีตกว่า สำนวนกลอนราบรื่นกว่า ความเพ้อฝันละเมียดละไมยิ่งกว่า โดยเฉพาะถ้อยคำภาษาไม่ใช่กลอนตลาดแบบสุนทรภู่ สำคัญที่สุดตลอดเรื่องนี้ไม่มีร่องรอยพรรณนาถึงความรักความหลังแบบสุนทรภู่เลย ไม่เอ่ยถึงเรื่องส่วนตัวเข้าแทรกเลย ผิดแบบสุนทรภู่ ที่แม้จะจะแต่งเพลงยาวถวายโอวาทเจ้านายยังอดแย้มพรายเรื่องความหลังไม่ได้ แต่นิราศอิเหนาเงียบงำที่สุด ไม่มีร่องรอยเลย เพราะที่จริงเป็นสำนวนผู้อื่นไม่ใช่สุนทรภู่ ก็เป็นอันว่ากวีนิพนธ์ของสุนทรภู่ที่ว่ามี ๒๓ เรื่อง ก็เหลือที่แน่นอนอยู่เพียง ๒๒ เรื่อง คือ นิราศ ๙ เรื่อง เหลือเพียง ๗ เรื่อง ข้าพเจ้าได้เขียนเผยแพร่ว่านิราศอิเหนาไม่ใช่ของสุนทรภู่ เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวันเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๘
๑. นิราศฉะเชิงเทราคำโคลง (ไพเราะเทียบเท่านิราศนรินทร์)
๒. เพลงยาวสังวาส ๔ สำนวน (ไพเราะลึกซึ้งมาก)
๓. บทละครนอกเรื่อง มณีพิไชยตอนต้น (ที่ว่าเป็นพระราชนิพนธ์ รัชกาลที่ ๒)
๔. นิราศอิเหนา (ไพเราะที่สุดยิ่งกว่านิราศสุนทรภู่ทุกเรื่อง)
นิราศอิเหนานี้เรียกว่าเป็นนิราศที่ไพเราะที่สุด ไพเราะยิ่งกว่านิราศเมืองเพชรของสุนทรภู่ที่ว่าไพเราะที่สุด แต่นิราศอิเหนาไพเราะยิ่งกว่า ใช้คำประณีตกว่า สำนวนกลอนราบรื่นกว่า ความเพ้อฝันละเมียดละไมยิ่งกว่า โดยเฉพาะถ้อยคำภาษาไม่ใช่กลอนตลาดแบบสุนทรภู่ สำคัญที่สุดตลอดเรื่องนี้ไม่มีร่องรอยพรรณนาถึงความรักความหลังแบบสุนทรภู่เลย ไม่เอ่ยถึงเรื่องส่วนตัวเข้าแทรกเลย ผิดแบบสุนทรภู่ ที่แม้จะจะแต่งเพลงยาวถวายโอวาทเจ้านายยังอดแย้มพรายเรื่องความหลังไม่ได้ แต่นิราศอิเหนาเงียบงำที่สุด ไม่มีร่องรอยเลย เพราะที่จริงเป็นสำนวนผู้อื่นไม่ใช่สุนทรภู่ ก็เป็นอันว่ากวีนิพนธ์ของสุนทรภู่ที่ว่ามี ๒๓ เรื่อง ก็เหลือที่แน่นอนอยู่เพียง ๒๒ เรื่อง คือ นิราศ ๙ เรื่อง เหลือเพียง ๗ เรื่อง ข้าพเจ้าได้เขียนเผยแพร่ว่านิราศอิเหนาไม่ใช่ของสุนทรภู่ เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐรายวันเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๘
นิราศวัดเจ้าฟ้า
ต่อมาข้าพเจ้าได้พบว่า นิราศวัดเจ้าฟ้า ที่สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพระนิพนธ์ไว้ว่าเป็นของสุนทรภู่ แต่แสร้งแต่งเป็นสำนวนเณรพัดน้ัน ที่แท้จริงเป็นของเณรพัด ข้าพเจ้าได้เขียนเรื่องนิราศวัดเจ้าฟ้าว่าไม่ใช่ของสุนทรภู่ลงในหนังสือศิลปวัฒนธรรม เมื่อเดือนมิถุนายน ๒๕๓๐
ก็เป็นอันว่าทฤษฎีที่ว่า งานกวีนิพนธ์ของสุนทรภู่มีอยู่ ๒๔ เรื่องน้ัน บัดนี้ได้มีผู้พิสูจน์ทฤษฎีไว้ว่า งานกวีนิพนธ์ของสุนทรภู่มี ๒๑ เรื่อง ที่ว่านี้มิได้มีเจตนาจะลบรัศมีหรือลบคุณความดีของท่านสุนทรภู่ลง แต่เป็นการชำระสะสางให้งานกวีนิพนธ์ของท่านบริสุทธิ์เป็นทองแท้ ไม่มีของผู้อื่นมาปะปนให้หม่นหมองไป สุนทรภู่นั้นถึงท่านจะมีงานกวีเหลืออยู่เท่านี้ ชื่อเสียงของท่านก็คงมีอยู่เท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย ท่านอาจมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นอีกด้วยซ้ำ เพราะบุตรชายของท่านชื่อนายพัดก็มีผลงานกวีอยู่ ลูกศิษย์ของท่านคือนายมีก็มีผลงานกวีที่งดงามไพเราะจนคนคิดว่าเป็นของสุนทรภู่ กรมหลวงภูวเนตรนรินทร์ฤทธิ์ เจ้าชายองค์หนึ่งซึ่งเป็นศิษย์สุนทรภู่ ก็มีผลงานกวีที่ไพเราะถึงขนาดคนเชื่อว่าเป็นของสุนทรภู่มานานเกือบ ๑๐๐ ปีแล้ว เณรกลั่นลูกศิษย์สุนทรภู่ก็มีผลงานกวีนิพนธ์อยู่ คนก็เชื่อกันมานานว่าเป็นของสุนทรภู่ ท่านว่าครูดีจึงจะมีศิษย์ดี ถ้าจะดูต้นไม้ให้ดูดอกดูผล ถ้าจะดูคนให้ดูลูก ถ้าจะดูครูให้ดูลูกศิษย์ ลูกศิษย์สุนทรภู่ที่เป็นกวีตั้งหลายท่านนี้แหละคือเครื่องรับรองว่าท่านเป็นกวีเอกจริงๆ ก็เป็นอันว่าขณะนี้ในปีพ.ศ. ๒๕๓๐ ครบรอบ ๒๐๐ ปีสุนทรภู่ เราก็มายุติว่างานกวีนิพนธ์ของสุนทรภู่มี ๒๑ เรื่อง กล่าวเฉพาะ เพลงยาว ๔ เรื่อง นิราศ ๖ เรื่องคือ
นิราศ ๖ เรื่อง
๑. นิราศเมืองแกลง แต่งพ.ศ.๒๓๕๐ อายุ ๒๐ ปี
๒. นิราศพระบาท แต่งพ.ศ.๒๓๕๐ อายุ ๒๐ ปี
๓. นิราศเมืองเพชร แต่งพ.ศ.๒๓๗๐ อายุ ๔๑ ปี
๔. นิราศภูเขาทอง แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๓๗๑ อายุ ๔๒ปี
๕. นิราศสุพรรณ แต่งพ.ศ.๒๓๘๔ อายุ ๕๕ ปี
๖. นิราศพระปธม แต่งพ.ศ.๒๓๘๕ อายุ ๕๖ ปี
เพลงยาวสุภาษิต ๒ เรื่อง
๑. เพลงยาวสวัสดิรักษา แต่งถวายพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่ออยู่วัดเทพธิดา
๒. เพลงยาวถวายโอวาท แต่งถวายเจ้าฟ้าอาภรณ์ และเจ้าฟ้ามหามาลา เมื่ออยู่วัดราชบูรณะ
เพลงยาวสังวาส ๑ เรื่อง
๑. เพลงยาวรำพรรณพิลาป แต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เมื่ออยู่วัดเทพธิดา พ.ศ.๒๓๘๕
คัดออกไป ๔ เรื่อง
๑. นิราศพระแท่นดงรัง ของนายมี มีระเสน ลูกศิษยื
๒. นิราศอิเหนา ของกรมหลวงภูวเนตรนรินทร์ฤทธิ์ ลูกศิษย์
๓. สุภาษิตสอนหญิง ของนายภู่ จุลละภมร ลูกศิษย์
๔. นิราศวัดเจ้าฟ้า ของนายพัด ภู่เรือหงส์ ลูกชาย
เรื่องที่ไม่ควรอ้างว่าเป็นของสุนทรภู่อีก ๓ เรื่อง
๑. นิราศพระแท่นดงรัง ของเณรกลั่น ศิษย์สุนทรภู่ ที่แต่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๔ เรื่องนี้เป็นหลักฐานสำคัญว่าสุนทรภู่บวชมาจนถึงปี พ.ศ.๒๓๘๘ ไปพระแท่นดงรังกับเณรกลั่น เณรกลั่นเรียกสุนทรภู่ว่า "มหาเถร" หมายถึงพระภิกษุที่บวชมา ๒๐ ปีแล้ว สุนทรภู่บวชถึงปีพ.ศ. ๒๓๘๘ ได้ ๒๑ พรรษา
๒. จันทโครบ เรื่องนี้มีบทไหว้ครู ซึ่งสุนทรภู่แต่งกลอนไม่เคยไหว้ครูแม้แต่เรื่องเดียว
๓. บทละครเรื่องอภัยนุราช ของพระยาเสนาภูเบศร์ (ใส สโรบล) ข้าราชการวังหนา ลูกศิษย์สุนทรภู่
นิราศ ๖ เรื่อง
๑. นิราศเมืองแกลง แต่งพ.ศ.๒๓๕๐ อายุ ๒๐ ปี
๒. นิราศพระบาท แต่งพ.ศ.๒๓๕๐ อายุ ๒๐ ปี
๓. นิราศเมืองเพชร แต่งพ.ศ.๒๓๗๐ อายุ ๔๑ ปี
๔. นิราศภูเขาทอง แต่งเมื่อ พ.ศ.๒๓๗๑ อายุ ๔๒ปี
๕. นิราศสุพรรณ แต่งพ.ศ.๒๓๘๔ อายุ ๕๕ ปี
๖. นิราศพระปธม แต่งพ.ศ.๒๓๘๕ อายุ ๕๖ ปี
เพลงยาวสุภาษิต ๒ เรื่อง
๑. เพลงยาวสวัสดิรักษา แต่งถวายพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่ออยู่วัดเทพธิดา
๒. เพลงยาวถวายโอวาท แต่งถวายเจ้าฟ้าอาภรณ์ และเจ้าฟ้ามหามาลา เมื่ออยู่วัดราชบูรณะ
เพลงยาวสังวาส ๑ เรื่อง
๑. เพลงยาวรำพรรณพิลาป แต่งถวายกรมหมื่นอัปสรสุดาเทพ เมื่ออยู่วัดเทพธิดา พ.ศ.๒๓๘๕
คัดออกไป ๔ เรื่อง
๑. นิราศพระแท่นดงรัง ของนายมี มีระเสน ลูกศิษยื
๒. นิราศอิเหนา ของกรมหลวงภูวเนตรนรินทร์ฤทธิ์ ลูกศิษย์
๓. สุภาษิตสอนหญิง ของนายภู่ จุลละภมร ลูกศิษย์
๔. นิราศวัดเจ้าฟ้า ของนายพัด ภู่เรือหงส์ ลูกชาย
เรื่องที่ไม่ควรอ้างว่าเป็นของสุนทรภู่อีก ๓ เรื่อง
๑. นิราศพระแท่นดงรัง ของเณรกลั่น ศิษย์สุนทรภู่ ที่แต่งเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๔ เรื่องนี้เป็นหลักฐานสำคัญว่าสุนทรภู่บวชมาจนถึงปี พ.ศ.๒๓๘๘ ไปพระแท่นดงรังกับเณรกลั่น เณรกลั่นเรียกสุนทรภู่ว่า "มหาเถร" หมายถึงพระภิกษุที่บวชมา ๒๐ ปีแล้ว สุนทรภู่บวชถึงปีพ.ศ. ๒๓๘๘ ได้ ๒๑ พรรษา
๒. จันทโครบ เรื่องนี้มีบทไหว้ครู ซึ่งสุนทรภู่แต่งกลอนไม่เคยไหว้ครูแม้แต่เรื่องเดียว
๓. บทละครเรื่องอภัยนุราช ของพระยาเสนาภูเบศร์ (ใส สโรบล) ข้าราชการวังหนา ลูกศิษย์สุนทรภู่
(โปรดติดตามตอนต่อไป)